วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เจาะใจกูรูปีหน้า กับ แฟชั่นเก๋กู๊ดตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า…!










คุณฟูก ธำรงรัตน์ วรารักษ์


ไทยรัฐออนไลน์รวบรวมกูรูเรื่องแฟชั่นมาฟันธง เทรนด์แฟชั่นปีหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับแฟชั่นนิสต้าว่าปีหน้าเทรนด์ไหนจะมาแรง...!!!



เริ่มด้วยเทรนด์แต่งหน้า โดยได้รับเกียรติจาก คุณฟูก ธำรงรัตน์ วรารักษ์ เมคอัพอาสต์ติสระดับประเทศบอกว่า หน้าการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ

* ภาพรวมของการแต่งหน้าใน "ซัมเมอร์" ปีหน้าจะต้องเน้นการรองพื้นควรจะใช้รองพื้นที่บางลง พร้อมกับต้องเพิ่มความนวลเนียนให้ใบหน้า โดยเรื่องรองพื้นจะต้องเน้นให้มีส่วนผสมของสารเรืองแสงเพื่อให้ผิวดูมีสุขภาพดี แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ในการกระจายแสงที่มากขึ้น



* สำหรับเทรนด์ในช่วงสปริงซัมเมอร์เราก็จะแต่งเป็นแนวเอิร์ธโทนดูมีสุขภาพดี ส่วนลิปสติก สีน้ำตาล และสีชมพูจะมาแรงในช่วงนี้ สำหรับสีอายเชโดว์ก็จะเป็นสีเขียวอ่อน สีเหลือง สีฟ้าอ่อน ม่วงอ่อนก็จะอิน เพียงแต่ว่าเนื้อของลิปสติกจะใส่ความแวววาวเข้าไปหรืออาจจะมีการผสมหลายๆสีกัน


* ซัมมอร์หน้าการแต่งหน้าเซ็กซี่จะมาแรง แต่ต้องไม่ใช่แต่งหน้าจัดจนเกินไป


*สำหรับช่วงวินเทอร์ปีนี้จะเป็นการแต่งหน้าที่ดูเข้มขึ้นสีอุ่นๆ ก็จะกลับมาแรงขึ้น ทั้งนี้ การแต่งหน้าลักษณะผิวก็จะมีความชุ่มชื่่นและก็มีเนื้อของรองพื้นที่มีส่วนผสมของสารกระจายแดงช่วยในการกระจายแสงเหมือนเดิม ขณะเดียวกันอายเชโดว์และลิปสติกจะมีเนื้อที่แห้งขึ้น ไม่มีเนื้อที่กรอสมากจนเกินไป





ศิริชัย ทหรานนท์ หรือ จ๋อม เจ้าของ “เธียเตอร์” (Theatre) แบรนด์เปรี้ยว เท่ และเปี่ยมด้วยเรื่องเล่า หนึ่งในแบรนด์ชั้นนำของไทย ด้วยคนไทย ฝีมือไทย บอกว่าปีหน้าเสื้อผ้าสไตล์เอเชียเคาท์เจอร์-สั้น เซ็กซี่จะมาแรง

* ภาพรวมในปีที่ผ่านมาเราจะเห็นภาพชัดเจนว่าดีไซเนอร์ไม่เพียงในประเทศไทย ดีไซเนอร์ทั่วโลกได้มีการปรับตัวมากมายผ่านการออกแบบที่เรียบง่ายที่สุด


* สำหรับซัมเมอร์ปีหน้าเสื้อผ้าที่เน้นเคาเจอร์ของเอเชียสไตล์พริ้วบางเบาแล้วเซ็กซี่จะมาแรง ที่สำคัญฟันธงได้ว่าปีหน้าโลกทั้งโลกจะต้องหันมาจับตามองเสื้อผ้าสไตล์เคาเจอร์ของเอเชีย ซึ่งอาจจะเป็นผ้าที่ลักษณะการทอหรือการมัดย้อมจากประเทศ อินโดนีเชีย อินเดีย ศรีลังกา หรือแม้กระทั่งประเทศเนปาล ซึ่งแฟชั่นนิสต้าหลายๆ คนในประเทศไทยอาจจะประยุกต์ใช้ได้


* ส่วนเรื่องเครื่องประดับปีหน้า น่าจะเป็นอะไรแมทช์เข้ากันกับเสื้อผ้าแนวเคาเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับสไตล์ของชนเผ่า เครื่องประดับแนวพื้นบ้าน ซึ่งก็จะได้รับอิทธิพลมาจากลวดลายต้องมาที่เอเชียเหมือนกัน


* สำหรับเสื้อผ้าที่เหมาะกับเมืองไทยปีซัมเมอร์นี้ น่าจะเป็นเสื้อผ้าที่มาจากเส้นใยจากธรรมชาติ อย่างผ้าคอตอน ผ้าฝ่ายเนื้อดีหรือ พวกซิล หรือพวกลินิน ก็สามารถนำมาใช้ได้ในฤดูร้อน อย่างไรก็ดีดูจากปีนี้น่าจะเป็นปีแห่งความเซ็กซี่ทั่วโลกโดยเฉพาะคนไทย ที่เน้นความบางเบา ทุกๆ อย่างๆ ต้องสั้น ซึ่งปีที่แล้วว่าสั้นแล้วปีนี้ยิ่งสั้นยิ่งอินเทรนด์ถึงสั้นที่สุดเพราะว่ากระโปรงสั้นจะได้รับความนิยมมาก ยุคนี้ต้องเป็นอะไรที่โชว์สรีระของตัวเอง ถึงจะดูเซ็กซี่อินเทรนด์น่าสนใจ


* ส่วนสีที่อินเทรนด์ในปี 2553 คือสีขาวดำ สีทอง สีน้ำเงิน เบท จะมาแรง


* ในส่วนของห้องเสื้อของเธียร์เตอร์ปีหน้าจะเน้นเสื้อผ้าแนว “อินสไพร์เรชั่น” แนวรีสอตท์ ซึ่งทางเธียร์เตอร์จะเน้นเสื้อผ้าในสไตล์พักผ่อนๆ ซึ่งเธียร์เตอร์อยากจะทำให้เป็นซีรีย์ของเรา โดยปีหน้าเราจะเน้นชุดยาว เสื้อคลุมไปชายหาดและสไตล์กางเกงว่ายน้ำ หรือกางเกง 4 ส่วน แบบความสบาย



ชนิตา ปรีชาวิทยากุล เจ้าของห้องเสื้อชื่อดัง "Senada Theory" บอกว่า เทรนด์เสื้อผ้าเน้นความอิสระ และไร้รูปแบบ

*ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่าคนไทยเริ่มสนใจในแฟชั่นมากขึ้น และหันมาเสพเทรนด์แฟชั่นจากอินเตอร์เน็ต...เริ่มกล้าที่จะแต่งตัวรู้จักการผสมผสานมากขึ้น โดยเสื้อผ้าเปิดไหล่ตั้งจะมาแรง หรือเสื้อผ้าแนวไหล่ตั้ง หัวแขนพองก็อินอยู่ แต่ต้องเป็นการจับเอากลิ่นยุค 80 เอามามิกซ์กับกลิ่นอายสมัยใหม่ ซึ่งบางคนก็นำเอากลิ่นอายผ้าพิมพ์มานำเสนอโดยเฉพาะผ้าพิมพ์แนวดิจิตอล แนวอวกาศ มาทำให้รู้สึกตระการตา ล้ำสมัย


* ส่วนเรื่องเทรนด์กระโปรงสั้นก็ยังอยู่เพราะปีหน้าเป็นต้องโชว์น่องที่เซ็กซี่ ซึ่งคงจะเห็นคนไทยแต่สไตล์อวกาศ หรือแนวโมเดิร์นเซ็กซี่ๆ มากขึ้น


* สีสันที่น่าจะมีอิทธิพลในปีหน้า น่าจะออกมากลางๆ สีกลางๆ สีคลาสิก สีขาว สีดำ


* สำหรับปีหน้านอกจากเทรนด์เสื้อผ้าแล้ว เรื่องแอดเซสเซอรี่น่าจะมีอิทธิพลมากๆ เช่น เวลาหนาวก็จะมีผ้าพันคอ มีผ้าคลุมไหล่เข้ามาให้เห็นบ้างแล้ว ปีหน้าก็คงไม่หนีไปจากนี้ หรืออย่างเรื่องเครื่องประดับต่างๆ ปีหน้าเราจะเล่นกับความใหญ่ เน้นเครื่องประดับที่มีความแวววาว คือยิ่งแวววาวยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งเก๋ดี


* ปีหน้าเสื้อผ้าของ “Senada Theory” จะเน้นแนวแรงพร้อมเทคนิคการปักให้เป็นเอกลักษณ์ทั้งคำพูด หรืออาจจะเป็นรูปภาพสัตว์ชนิดต่างๆ ห้องเสื้อ Senada Theory จะเน้นสีผสม สีแรงๆ ใช้การเล่นสีที่ตรงข้ามมีการใช้เทคนิคในการตัดต่อผ้าให้ดูล้ำสมัยขึ้น มีกราฟฟิกมากขึ้น เน้นงานปักเพื่อแสดงความเชี่ยวชำนาญ มีการใช้ลูกเล่นตัวอักษรปักเหมือนเสื้อใส่ธรรดาแต่ใช้ผ้าไหมและปักคำภาษาไทย สีก็จะเป็นสีแสดกับสีม่วง แล้วก็สีเบสิกก็ยังคงรักษาอยู่ การปักก็อาจจะเป็นรูปสัตว์รูปนก



บัณฑิต ศักดิ์สุพรรณ แชมป์ผมของชวาร์สคอฟ ทั้งยังเป็นเจ้าของซาลอนหรู La Bella Luxury @ หลายสาขาบอกว่า ทรงสกินเฮดมาแรง ฟันธง...!


* จากที่อิทธิพลจากการดูแฟชั่นต่างประเทศพวกแบรนด์ดังๆ บนเวทีเดินแบบตอนนี้ผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นสกินเฮดกันหมด ซึ่งคนที่ตัดผมทรงนี้แล้วสวยควรเป็นผู้ชายที่มีรูปกะโหลกสวย กล่าวคือมีความโหนก ทุย ซึ่งก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของผู้ชายที่จะทำให้ลุ๊คคุณเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”


* ส่วนเทรนด์ทรงผมของปีหน้ามองว่าส่วนใหญ่จะแนวเกาหลีจะยังอินเทรนด์อยู่ แต่อาจจะไม่ใช้ทรงเกาหลีแบบปัจจุบันนี้เป๊ะๆ โดยทรงผมของศิลปิน F4 น่าจะเป็นทรงที่ฮิตมากๆ ซึ่งถ้าเราเปรียบเทียบ F4 ซีรีย์ที่แล้ว กับซีรีย์นี้ F4 คือทรงผมก็เปลี่ยนไป โดยเขามีการเล่นสี ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกสีสันหนึ่งที่น่าสนใจ


สมศักดิ์ ชลาชล เจ้าของธุรกิจเสริมสวย "ชลาชล" บอกว่า "Out of Shape" จะแรงสุดๆ คอนเฟิร์ม...!


* เทรนด์ผมปีหน้าสำหรับผู้ชาย เรียกว่าทรง "Out of Shape" คือ เสื้อสูท ก็จะเป็นสูตรสั้นข้างยาวข้าง ก็เหมือนทรงผม ไถเข้าไปข้างในแล้วปล่อยข้างบนไว้ เหมือนทรงโบราณของคนไทย แล้วก็มาออกเป็นร็อคนิดๆ พังค์หน่อยๆ และทีเป็นส่วนสำคัฐก็คือข้างๆ จะเป็นไถสั้นเลย และข้างบนจะไว้ยาว ซึ่งคนที่มีรูปหน้าอ้วนก็จะทำให้ดูเพียวบางได้


* สำหรับสีที่น่าจะอินเทรนด์ น่าจะเป็นสีที่อุ่น สีออกอมเขียวๆ ไม่น่าจะเป็นสีแบบจี๊ดจ๊าด...เอาอารมณ์ของความเย็นแต่ถ้าเป็นซัมเมอร์ ปีหน้าคิดว่าจะไม่มีสีสันมาก แต่ว่าจะเป็นเหมือนเราดูทีวีเราก็ดูตั้งแต่ขาวดำ ทีวีสี และก็มาเป็นพลาสม่มันจะกลืนจะเป็นธรรมชาติ


* สำหรับเทรนด์ทรงผมของผู้หญิงปีหน้า คนไทยจะเป็นลักษณะมีลอนผมเยอะจะดูเป็นผู้หญิงมากขึ้นอีกกลุุ่มหนึ่งก็จะเป็นพวก "ทอม" จะมาแรงเฮฟวี่ทั้งหลายซึ่งจะทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงขึ้นจะมีหลายกลุ่มเหมือนกับไลฟ์สไตล์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น